"AI ไม่ได้แย่งงานมนุษย์ แต่คนที่เก่ง AI ต่างหาก ที่กำลังเข้ามาแย่งงานมนุษย์ด้วยกันเอง" - CEO บริษัท NVIDIA

AI ปี 2025 มีพัฒนาการชัดเจนมากขึ้นจาก “แค่สร้างหรือให้ข้อมูลตามคำสั่ง” ไปสู่การเป็น “Action Engine” ที่ทำงานแทนจริง :
- จัดการงาน (workflow) เช่น งานกฎหมาย งานพัฒนา
- บริการลูกค้าอัตโนมัติ
- หุ่นยนต์ที่ทำงานในโรงงานจริง
- ผู้ช่วยส่วนตัวที่จัดการชีวิตประจำวัน
- AI โครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงและพร้อมใช้งาน
- AI เฉพาะทาง เช่น ด้านภาษา การแพทย์ หรือเสียง

      นี่คือการปฏิวัติครั้งสำคัญที่ทำให้ AI ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือเสริมการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่กลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของธุรกิจและชีวิตประจำวันจนผู้ใช้งานขาดไม่ได้ไปแล้ว

จากการจัดอันดับของ Forbes และ Sequoia Capital ระบุว่า AI ในปี 2025 กำลังพัฒนาไปสู่การเป็น “action engine” ที่สามารถทำงานจริงแทนมนุษย์ ไม่ใช่แค่ตอบคำถามหรือสร้างคอนเทนต์ บทความนี้จะแบ่งการอธิบายเป็นหมวดหมู่หลัก ๆ ตามที่ Forbes จัดอันดับ AI 50 ปี 2025

1. Consumer Apps – AI สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป

AI กลุ่มนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยในชีวิตประจำวันและการทำงานของคนทั่วไป
- Media: เช่น Midjourney, Pika, Suno ใช้สร้างภาพ วิดีโอ เพลง
- Productivity: เช่น ChatGPT, Claude, Perplexity, DeepL, Grok ช่วยสรุปข้อมูล, เขียนคอนเทนต์, แปลภาษา, ค้นหาความรู้ รวมถึง Notion และ Speak ที่ช่วยจดบันทึกและการสื่อสาร

การใช้งานจริง: ผู้ใช้ทั่วไปเริ่มใช้ AI จัดการตารางงาน จองตั๋ว จัดระเบียบไฟล์ และช่วยเรียนภาษา (เช่น Speak ที่มีผู้ใช้หลายสิบล้านคน

2. Enterprise Apps – AI สำหรับธุรกิจ

Horizontal Enterprise

- Developer & Data Teams: Codeium, Cursor, Databricks, StackBlitz ช่วยนักพัฒนาโค้ดอัตโนมัติและสร้างระบบ Data Pipeline
- Sales & Customer Experience: Clay, Sierra, Synthesia ใช้ในงานขายและบริการลูกค้า เช่น Sierra ที่พัฒนา customer support อัตโนมัติ
- General Productivity: Glean, Notion, Writer ใช้ในการจัดการความรู้และการเขียน

Vertical Enterprise

- Creative: Runway, ElevenLabs, Pika, Midjourney ใช้สร้างเสียง วิดีโอ ภาพ
- Defense: Vannevar Labs ใช้ในงานด้านความมั่นคง
- Health & Bio: Abridge, OpenEvidence ใช้ช่วยแพทย์สรุปและค้นหาข้อมูลทางการแพทย์ได้รวดเร็วขึ้น
- Professional Services: Harvey, Hebbia, Luminance ใช้ในงานวิชาชีพ เช่น กฎหมายและการเงิน Harvey สามารถจัดการ workflow กฎหมายครบวงจรตั้งแต่ตรวจสัญญาจนถึงการวิเคราะห์คดี

3. Robotics – AI ที่จับต้องได้

AI รวมเข้ากับหุ่นยนต์เพื่อทำงานจริงในโลกกายภาพ
- Figure AI: ผลิตหุ่นยนต์มนุษย์ในโรงงาน BotQ ได้ถึง 12,000 ตัวต่อปี และใช้โมเดล Helix (Vision-Language-Action)
- Skild AI: พัฒนา Skild Brain โมเดลมาตรฐานที่ใช้ได้กับหุ่นยนต์หลายประเภท
- World Labs: นำ AI ประยุกต์ใช้กับหุ่นยนต์ในหลายอุตสาหกรรม

4. Infrastructure – โครงสร้างพื้นฐานของ AI

- Foundation Model Providers: OpenAI, Anthropic, Cohere, Mistral AI, World Labs
- Inference Providers: Baseten, Fireworks AI, Together.ai
- App Dev Frameworks: LangChain
- Model Hubs: Hugging Face
- Cloud Compute Providers: AWS, Azure, Google Cloud, CoreWeave, Lambda, Crusoe
- Label & Process Data: Scale, Snorkel, Coactive, Mercor
- Data Storage: MongoDB, Snowflake, VAST
- Hardware: NVIDIA, AMD, Intel, SambaNova

การใช้งานจริง: Together AI ได้เงินทุนมากกว่า 530 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI รุ่นใหม่ ส่วน Lambda มีมูลค่ากว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ ใช้รองรับการประมวลผลและการฝึกโมเดล AI

5. Specialized AI – AI เชิงเฉพาะทาง

- Speak: แอปสอนภาษาที่มีผู้ใช้งานหลายสิบล้านคน
- OpenEvidence: ใช้สรุปข้อมูลทางการแพทย์สำหรับแพทย์
- ElevenLabs: สร้างเสียงเสมือนจริงและโคลนนิ่งเสียง ได้รับการลงทุนกว่า 281 ล้านดอลลาร์

ปี 2025 ถือเป็นจุดเปลี่ยนของ AI จากเดิมที่เป็นเพียง "เครื่องมือหาคำตอบ" ก้าวขึ้นมาเป็น "เครื่องมือทำงานจริง" บริษัทรุ่นใหม่ใน AI 50 ปี 2025 ได้พิสูจน์แล้วว่า AI สามารถรับผิดชอบงานที่มีความหมาย และสร้างผลลัพธ์จริงได้ เป็นการปูทางสู่การใช้งานในวงกว้างมากขึ้น

เมื่อเข้าสู่ปี 2026 เราจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ของ AI ในภาคธุรกิจขยายออกไปสู่ชีวิตประจำวัน แม้ยังมีความท้าทายเรื่อง "ความถูกต้อง" "ความปลอดภัย" และ "จริยธรรม" แต่กระแสการเติบโตของ AI กำลังเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

ขอขอบคุณ แหล่งที่มา: AI 50 2025: AI Agents Move Beyond Chat – Forbes