01 มกราคม 2513

เมื่อ AI ปลอมเสียงและหน้าเราได้

Deep Learning คือ
วิธีหนึ่งในปัญญาประดิษฐ์ ที่สอนคอมพิวเตอร์ให้ประมวลผลข้อมูลเหมือนกับการทำงานของเซลล์สมองนับล้านของมนุษย์ เมื่อมีข้อมูลป้อนเข้ามา AI ก็จะวิเคราะห์จากมุมมองหลาย ๆ อย่าง จนเกิดการเรียนรู้ใหม่ ๆ และสามารถทราบความหมายและประเภทของข้อมูลที่ป้อนเข้ามา

ตัวอย่าง หากเรานำ Deep Learning AI ใส่เข้าไปในรถยนต์เพื่อเรียนรู้ป้ายและสัญญาณไฟจราจร AI จะคอยจดจำพฤติกรรมของเราในการขับรถ เมื่อพบไฟแดงก็จะรู้ว่าเราต้องหยุดรถ ถ้าเจอป้ายห้ามจอดก็จะเรียนรู้ว่าบริเวณนั้นจอดรถไม่ได้ ถ้าเห็นทางม้าลายก็จะรู้ว่าต้องหยุดให้คนเดินข้ามถนน ดังนั้นเมื่อมีการเรียนรู้ที่มากขึ้น AI ก็จะสามารถบอกเราได้ว่าจะต้องขับขี่รถยนต์อย่างไรและสิ่งไหนควรทำหรือไม่ควรทำบนท้องถนน

ตัวอย่าง หากเรานำ Deep Learning AI ใส่เข้าไปในรถยนต์เพื่อเรียนรู้ป้ายและสัญญาณไฟจราจร AI จะคอยจดจำพฤติกรรมของเราในการขับรถ เมื่อพบไฟแดงก็จะรู้ว่าเราต้องหยุดรถ ถ้าเจอป้ายห้ามจอดก็จะเรียนรู้ว่าบริเวณนั้นจอดรถไม่ได้ ถ้าเห็นทางม้าลายก็จะรู้ว่าต้องหยุดให้คนเดินข้ามถนน ดังนั้นเมื่อมีการเรียนรู้ที่มากขึ้น AI ก็จะสามารถบอกเราได้ว่าจะต้องขับขี่รถยนต์อย่างไรและสิ่งไหนควรทำหรือไม่ควรทำบนท้องถนน
 
Deepfake คือ
เทคโนโลยีการลอกเลียนแบบ โดยที่ AI จะเรียนรู้ใบหน้าและเสียงของมนุษย์และสามารถปลอมแปลงบุคคลต่าง ๆ ได้อย่างอัตโนมัติ คำ ๆ นี้มาจากการผสมระหว่าง Deep Learning และ Fake หลาย ๆ คนอาจจะเคยลองใช้เทคโนโลยีนี้กันมาบ้างแล้ว โดยการให้ AI ปลอมหน้าเราเข้าไปแทนที่บุคคลสำคัญต่าง ๆ
 
4 ตัวอย่างเครื่องมือที่ใช้ในการปลอมหน้า ปลอมเสียง และปลอมแชต
ตอนนี้หลายคนก็คงอยากจะทดลองระบบ AI ต่าง ๆ ที่สามารถสร้างผลงาน Deepfake กันแล้วใช่ไหม มาดู ตัวอย่าง 4 รูปแบบกันเลย มีดังนี้
  1. Deepfakes เป็นเว็บไซต์ที่เราสามารถสร้างวิดีโอ Deepfake ในระดับเบื้องต้น โดยในเว็บไซต์จะมีวิดีโอต้นฉบับที่เป็นบุคคลในท่าทางต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถอัปโหลดวิดีโอและรูปภาพของเราเพื่อนำหน้าตาของเราเข้าไปแทนที่หน้าตาของบุคคลในวิดีโอต้นฉบับได้
  1. MyHeritage เป็นเว็บไซต์ที่เราสามารถเอารูปเก่า ๆ ในอดีต เช่น ภาพขาวดำรุ่นคุณปู่คุณย่ามาเปลี่ยนเป็นรูปภาพที่มีชีวิตชีวา สามารถขยับหน้า ขยับปาก หรือกระพริบตาได้ ซึ่งเคยเป็นที่นิยมใน TikTok อยู่ระยะหนึ่ง หากต้องการทดลอง เราสามารถเข้าไปใช้ได้ง่าย ๆ โดยเพียงอัปโหลดไฟล์ภาพเข้าไปในเว็บไซต์ ระบบก็จะทำการสร้างภาพออกมาให้เรา
  1. FakeYou เว็บไซต์ที่เราสามารถปลอมเสียงได้หลายรูปแบบ เช่น การพิมพ์ข้อความแล้วเปลี่ยนเป็นเสียงประเภทต่าง ๆ หรือการนำเสียง ๆ หนึ่งไปแปลงเป็นอีกเสียงได้ และเรายังสามารถอัปโหลดเสียงที่ต้องการเพื่อให้ระบบทำการเลียนแบบอย่างที่ต้องการได้ วิธีการใช้งานนั้นก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่พิมพ์ข้อความที่ต้องการสร้างเป็นเสียง หรือนำเสียงไปอัปโหลดเข้าระบบเพื่อใช้ในการเลียนแบบเสียง ทีนี้เราก็สามารถปลอมแปลงเสียงต่าง ๆ ได้โดยที่ไม่มีใครรู้
  1. FakeInfo เว็บไซต์นี้ทำให้เราสามารถสร้างโปรไฟล์ปลอมของ Social Media ต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น WhatApps Facebook Instagram TikTok และสามารถสร้างบทสนทนาในแชตปลอมได้ ไม่ว่าจะเป็น Telegram Line WeChat เป็นต้น วิธีการใช้งานก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่เข้าไปที่เว็บไซต์และเลือกประเภทแพลตฟอร์มที่เราต้องการสร้างข้อมูลปลอม และกรอกข้อมูลที่เราต้องการลงไปตามที่ต้องการ ระบบจะทำการสร้างข้อมูลปลอมให้กับเราได้อย่างไม่ยาก
วิธีป้องกันตัว เมื่อเทคโนโลยีถูกมิจฉาชีพนำไปใช้หลอกลวง
ถ้าวันหนึ่งคุณได้ท่องไปในโลกออนไลน์แล้วได้ไปเจอตัวคุณเองในรูปแบบที่เป็น AI กำลังพูดประชาสัมพันธ์เรื่องต่าง ๆ ซึ่งอาจจะทำให้คนอื่น ๆ เข้าใจผิด ไม่ว่าจะเป็นการนำไปหลอกขายสินค้า หรือชักชวนให้มีการลงทุนที่ผิดกฎหมาย สิ่งที่เราจะต้องดำเนินการมีดังนี้
  1. ทำการลงบันทึกประจำวันที่สถานตำรวจใกล้บ้านท่านว่าเราไม่ได้เป็นผู้จัดทำรูปภาพและคลิปวิดีโอดังกล่าว แต่เกิดจากการกระทำของมิจฉาชีพในลักษณะ Deepfake และ AI เพื่อให้ตำรวจบันทึกเป็นหลักฐานว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้อง
  1. ทำการแจ้งเพื่อน ๆ และบุคคลที่รู้จักให้ทำการรายงานให้ทางแพลตฟอร์มได้ทราบ เพื่อทำการแบนข้อมูลปลอมและโปรไฟล์ผู้ใช้งานที่ปลอมเป็นตัวเรา
  1. อย่าลืมประกาศเป็นระยะให้กับคนใกล้ชิดได้ทราบว่า มีคนกำลังปลอมเป็นตัวเราเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ เพื่อให้ผู้อื่นระมัดระวังและไม่ตกเป็นเหยื่อยของมิจฉาชีพ
  1. หากพบว่ามีความผิดปกติกับบัญชีเงินฝากหรือมีการหลอกโอนเงินจากบัญชีของเรา รีบรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด เพื่อแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการจับกุมคนร้ายที่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของเรา และสามารถแจ้งธนาคารกรุงศรีได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1572 กด 5 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง